18-21 มิถุนายน 2568

ลดการสูญเสียคุณภาพการผลิตในโรงงานด้วย AI

   

  • AI กำลังเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมการผลิตอย่างสิ้นเชิง ตั้งแต่ระบบอัตโนมัติและการบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์ ไปจนถึงการควบคุมคุณภาพและประสิทธิภาพของห่วงโซ่อุปทาน
  • เทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงเกมนี้สามารถเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมไปพร้อมกับปลดปล่อยประสิทธิภาพการผลิตที่ไม่เคยมีมาก่อน และเพิ่มศักยภาพให้กับผู้ผลิตให้ประสบความสำเร็จในตลาดระดับโลกที่มีการแข่งขันอย่างดุเดือด
  • AI จะช่วยให้คุณตัดสินใจเรื่องที่สำคัญ หรืองานที่มีความซับซ้อนสูง และมีปริมาณมากได้อย่างถูกต้องแม่นยำ เช่น ควรจะผลิตสินค้าใด เมื่อใด จะส่งสินค้าไปที่ใดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพระดับสินค้าคงคลัง พร้อมวิธีตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณไม่ได้ใช้ทรัพยากรมากเกินไป 

AI มีบทบาทสำคัญในการลดการสูญเสียคุณภาพของการผลิตในโรงงานได้หลากหลายวิธี ดังนี้

  • พัฒนาผลิตภัณฑ์บนพื้นฐาน AI โดยใช้ AR (ความเป็นจริงเสริม) และ VR (ความเป็นจริงเสมือน) ช่วยให้ผู้ผลิตสามารถทดสอบผลิตภัณฑ์หลายรุ่นก่อนเริ่มการผลิต ลดความซับซ้อนในการบำรุงรักษาและการแก้ไขข้อบกพร่องต่าง ๆ ได้
  • ตรวจจับข้อบกพร่อง AI สามารถวิเคราะห์รูปภาพ วิดีโอ หรือข้อมูลเซ็นเซอร์จากสายการผลิตเพื่อตรวจจับความผิดปกติ ข้อบกพร่อง หรือการเบี่ยงเบนไปจากข้อกำหนดมาตรฐาน โดยการระบุข้อบกพร่องได้รวดเร็วและเชื่อถือได้มากกว่าการตรวจสอบด้วยตนเอง โรงงานที่เชื่อมต่อด้วย AI ใช้เซ็นเซอร์และอุปกรณ์ที่ติดตั้งบนคลาวด์เพื่อตรวจสอบกระบวนการผลิตแบบเรียลไทม์ ปรับเปลี่ยนตารางเวลาได้ทันทีเพื่อตอบสนองต่อสถานการณ์ที่ไม่คาดฝัน เช่น อุปกรณ์ทำงานผิดปกติ การหยุดชะงักในห่วงโซ่อุปทาน หรือการเปลี่ยนแปลงของอุปสงค์ จะช่วยให้สามารถแทรกแซงได้ทันท่วงทีและเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิตได้  
  • บำรุงรักษาเชิงคาดการณ์ล่วงหน้า AI สามารถตรวจสอบประสิทธิภาพ สภาพ และสุขภาพของเครื่องจักร และคาดการณ์เมื่อจำเป็นต้องบำรุงรักษาหรือซ่อมแซม ด้วยการกำหนดเวลากิจกรรมการบำรุงรักษาในช่วงเวลาที่เหมาะสมสุดท้ายก่อนที่จะเกิดความล้มเหลว
  • จัดตารางงานการผลิต AI จะพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ เช่น ความพร้อมใช้งานของเครื่องจักร ชุดทักษะของผู้ปฏิบัติงาน ลำดับความสำคัญของคำสั่งซื้อ และข้อจำกัดในการผลิต ทำให้โรงงานสามารถจัดสรรทรัพยากร สร้างสมดุลปริมาณงาน ลดเวลาหยุดทำงาน และปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตโดยรวมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด AI จะประเมินความพร้อมใช้งานและความสามารถของทรัพยากรที่สำคัญต่าง ๆ ในโรงงาน เช่น เครื่องจักร แรงงาน และวัสดุ อย่างพิถีพิถัน เพื่ออำนวยความสะดวกให้การบริหารทรัพยากรเชิงกลยุทธ์ และรับประกันขั้นตอนการปฏิบัติงานที่ราบรื่น
  • ลดต้นทุน AI มีส่วนช่วยในการลดค่าใช้จ่ายการผลิตโดยการเพิ่มประสิทธิภาพการกระจายทรัพยากร ลดของเสีย และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ต้นทุนการดำเนินงานที่ลดลงหมายถึงความสามารถในการทำกำไรที่เพิ่มขึ้น
  • ปรับปรุงผลิตภัณฑ์จากคำติชมของลูกค้า AI สามารถเรียนรู้จากข้อมูลในอดีตและคำติชม จากนั้นปรับให้เข้ากับเงื่อนไขหรือข้อกำหนดที่เปลี่ยนแปลงไป AI ซึ่งสามารถปรับปรุงคุณภาพผลิตภัณฑ์และความพึงพอใจของลูกค้าได้

 

        ตัวอย่างบริษัทที่ใช้ AI เพื่อลดการสูญเสียคุณภาพของการผลิตในโรงงานคือ Siemens ซึ่งใช้ AI เพื่อระบุชิ้นส่วนที่ชำรุดและแหล่งที่มาของข้อบกพร่อง และปรับปรุงคุณภาพในท้ายที่สุด ขณะที่ Samsung ใช้ AI ในการควบคุมคุณภาพเพื่อปรับปรุงขั้นตอนการผลิตและคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ด้วยการค้นหาข้อบกพร่อง ปรับปรุงกระบวนการตรวจสอบ และเพิ่มประสิทธิภาพโดยรวม นำไปสู่ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงขึ้นและความพึงพอใจของลูกค้ามากขึ้น ส่วน General Electric ใช้การบำรุงรักษาแบบคาดการณ์ล่วงหน้าเพื่อคาดการณ์การชำรุดของอุปกรณ์และปรับปรุงกำหนดการบำรุงรักษา

        ในกรณีของการผลิตสารเคมี Seebo สตาร์ทอัพสัญชาติอิสราเอลใช้ AI เพื่อคาดการณ์และป้องกันการสูญเสียการผลิตโดยการวิเคราะห์ข้อมูลที่ซับซ้อนและระบุความไร้ประสิทธิภาพที่ซ่อนอยู่ เทคโนโลยีนี้สามารถช่วยให้ผู้ผลิตสารเคมีเข้าใจกระบวนการของตนได้ดีขึ้น และลดการสูญเสียการผลิตจากสาเหตุต่าง ๆ เช่น การบรรจุและการทำความสะอาดที่ไม่มีประสิทธิภาพ การแปรผันของวัตถุดิบ ปฏิกิริยาที่ไม่เหมาะสม และการเปรอะเปื้อน

        เพื่อไม่ให้พลาดข่าวคราวล่าสุดและอัพเดทความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ในแวดวงการก่อสร้างและโรงงาน โปรดติดตามบล็อกนี้อย่างต่อเนื่อง และเตรียมพบกับ FacTech 2024 งานแสดงเทคโนโลยีเพื่อการก่อสร้าง บำรุงรักษา บริหารจัดการโรงงานและอาคารที่คับคั่งที่สุดในย่านอาเซียน ในวันที่ 19-22 มิถุนายน 2567 ณ ไบเทค บางนา